วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถุยใส่หน้ากล้องทีวี

ข่าวฟุตบอลโลก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าของทีมชาติโปรตุเกส ถุยน้ำลายใส่กล้องทีวี หลังโปรตุเกสพ่ายสเปน 0-1 หมดสิทธิ์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010

ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่สนาม เคปทาวน์ สเตเดี้ยม เป็นการพบกันศึกบิ๊กแมตซ์แห่งคาบสมุทรบอลข่าน สเปน แชมป์ยูโร 2008 พบกับโปรตุเกส ผลปรากฏว่า โปรตุเกสพ่ายสเปน 0-1 จากลูกยิงของ ดาบิด บีย่า หัวหอกตัวใหม่ของทีม บาร์เซโลน่า ในนาทีที่ 63 ทำให้โปรตุเกสตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

เดอะซัน ได้รายงานข่าวหลังจบเกมการแข่งขันว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าของทีมชาติโปรตุเกส เกิดอารมณ์หงุดหงิด เมื่อช่างภาพเดินไปถ่ายภาพเขาในขณะที่เขากำลังเดินออกสนาม จึงทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และถุยน้ำลายใส่หน้ากล้องโทรทัศน์

ทั้ง นี้ พฤติกรรมดังกล่าวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกสื่อต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

โยอัคคิม เลิฟ วางตัวยิงจุดโทษแล้ว

ข่าวฟุตบอลโลก โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์เยอรมัน ได้วางตัวคนที่จะทำหน้าที่ยิงจุดโทษไว้แล้ว หากเกมที่จะพบกับอาร์เจนตินาเสมอกันในเวลา 120 นาที นักเตะทุกคนจะ ต้องซ้อมยิงจุดโทษคนละ 2 ครั้ง เพราะสถานการณ์บีบคั้นและความตึงเครียดในสนามจะมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แฟนบอลในสนามจะสร้างความกดดันให้อย่างมาก จนคุณอาจจะยิงจุดโทษไม่ได้เหมือนตอนที่ซ้อมไว้ เลิฟ กล่าว นอกจาก นี้ อดีตโค้ชทีมสตุ๊ตการ์ท ยังบอกอีกว่า เขาเลือก 5 นักเตะที่จะยิงจุดโทษไว้แล้ว หากเกมในเวลา 120 นาทียังหาทีมชนะไม่ได้ ซึ่งนักเตะที่เลือกไว้คือ ลูคัส โพดอลสกี้ ที่เคยยิงพลาดในรอบแรก ทำให้ทีมแพ้เซอร์เบีย 0-1, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, เมซุต โอซิล, ซามี เคดิรา และมิโรสลาฟ โคลเซ และยังมีสำรองเผื่อไว้อีก 2 คนคือ กัปตันทีม ฟิลิปป์ ลาห์ม และ โธมัส มุลเลอร์


ข่าวฟุตบอล ปาสโตเร ไม่สนใจแข้งเบียร์เปิดศึกน้ำลาย

ฮาเวียร์ ปาสโตเร มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินา ทำเมินไม่สนใจหลัง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ดาวเตะทีมเยอรมัน เปิดศึกสงครามน้ำลายจวกแข้ง "ฟ้า-ขาว" ว่ามักทำตัวไม่เคารพผู้ตัดสิน ด้วยการเข้าไปกดดันหรือประท้วงการตัดสิน พร้อมยืนยันสนใจแต่แค่การลงสนามแล้วไปเอนเตอร์เทนแฟนๆเพียงอย่างเดียว

สำนัก ข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. เหมือนจะเดือดตั้งแต่ยังไม่ลงสนามฟาดแข้ง สำหรับเกมหยุดโลกที่ อาร์เจนตินา จะลงเล่นเกมรอบแปดทีมสุดท้ายพบกับ เยอรมัน คู่ปรับเก่าที่เคยเขี่ยพวกเขาตกรอบเดียวกันนี้เมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2006 เมื่อ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เป็นคนออกมาเปิดประเด็นกล่าวหาว่านักเตะทีม "ฟ้า-ขาว" มักชอบเข้าไปกดดันการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินอยู่เป็นประจำ

อย่าง ไรก็ตาม ฮาเวียร์ ปาสโตเร ดาวเตะวัย 25 ปีจากค่าย ปาแลร์โม กลับเลือกทำเมินไม่ตอบโต้คอมเม้นท์ดังกล่าว เผยใครอยากพูดอะไรก็ให้พูดไป "เขาสามารถพูดอย่างที่เขาอยากพูด แต่สำหรับเรา เราคิดเพียงแต่การลงสนามไปเอนเตอร์เทนคนดูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น"

แมตช์ หยุดโลกคู่ระหว่าง อาร์เจนตินา-เยอรมัน จะลงสนามเล่นกันที่เคปทาวน์ สเตเดียม เมืองเคปทาวน์ วันที่ 3 ก.ค.นี้

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ข่าวฟุตบอลโลก ญี่ปุ่น ยื้อปารากวัยถึงดวลโทษซัดพลาดคนเดียวร่วงตกรอบ

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย (29 มิ.ย.53)

ปารากวัย 0-0 ญี่ปุ่น (120 นาทีเสมอกัน 0-0, ปารากวัย ชนะจุดโทษ 5-3)

สนาม : ลอฟตัส เวอร์สเฟลด์

ประตู : ไม่มี

ทีม “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ทีมสุดท้ายของเอเชีย ที่เหลือในฟุตบอลโลกหนนี เจอกับโจทย์ยากอย่างปารากวัย ทีมจอมแกร่งจากอเมริกาใต้ ที่ผ่านเข้ารอบมาเป็นแชมป์ของกลุ่มอี

เกมเริ่มมา 20 วินาที ญี่ปุ่น ขอทักทายก่อนทันทีจากการยิงไกล 30 หลาของ โอคูโบะ แต่ก็หลุดกรอบออกไปเยอะมาก แต่หลังจากนั้นเป็นปารากวัย ที่ครองเกมได้เหนือกว่าแต่ก็ไม่สามารถจะหาช่องเจาะแนวรับของญี่ปุ่นที่ตรึง กันไว้แน่นได้

ปารากวัย เล่นอย่างอึดอัดมาโดยตลอด แต่ก็มาได้จังหวะใกล้เคียงมากที่จะได้ประตูเมื่อใช้การต่อบอลสั้นขึ้นไป บาร์ริออส โชวลีลาพลิกบอลได้สวยก่อนจะพาบอลเข้าไปในเขตโทษได้แล้วแต่ว่ายิงไม่ผ่านขา ของ คาวาชิม่า ที่เซฟได้สำเร็จก่อนที่ โคมาโน จะมาช่วยเคลียร์ได้

แต่นาทีต่อมา ญี่ปุ่น ก็ตอบโต้ได้อย่างน่ากลัวเมื่อเปิดเกมรุกขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษ บอลโดนสกัดมาได้แต่มาเข้าทาง มัตสุอิ ได้ตั้งป้อมปั่นบอลลูกพุ่งฮุคโค้งกำลังจะมุดใต้คานแต่ก็ไปชนคานดังสนั่น

นาทีที่ 26 ปารากวัย มีจังหวะอีกครั้งเมื่อได้ลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามากลางประตูบอลถูกสกัดตแต่ไม่ขาดมาตกตรงหน้า โรเก้ ซานตา ครูซ แต่ว่าก็ซัดด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาออกไป ก่อนที่เกมจะเปิดแลกกันต่อไป

ญี่ปุ่น เริ่มเปิดหน้าแลกมากขึ้นโดยเฉพาะจังหวะสวนกลับเร็ว มีจังหวะที่ทำชิ่งกันขึ้นมาสวยก่อนที่บอลจะมาถึง ฮอนดะ ส่องไกลจากระยะ 25 หลาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น ก่อนที่เกมจะยื้อกันไปจนจบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังรูปเกมเปิดมากกว่าครึ่งแรกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีจังหวะมากนัก เนื่องจากทั้งสองทีมต่างก็บีบพื้นที่กันได้อย่างรัดกุมทำให้เกมเป็นไปอย่าง อึดอัด ยิ่งเล่นก็ยิ่งเกร็งกัน โดยเฉพาะฝ่ายปารากวัย ที่เห็นได้ชัด

ญี่ปุ่น มาเปิดหน้าแลกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายและสามารถกดดันทีมจากละตินได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะช่วงท้ายเกม แต่ที่สุดแล้วเกมก็จบลงด้วยการเสมอกันเหมือนเดิม และต้องเล่นกันต่อในการต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ช่วงการต่อเวลาทั้งสองทีมเปิดฉากลุยกันใส่แบบไม่มีเหนียมแล้ว และสร้างโอกาสรุกเข้าพื้นที่สุดท้ายกันได้พอสมควร โดย ปารากวัย ถึงขั้นได้โขกจาก บาร์ริออส แต่ว่าก็หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

ปารากวัย ที่ส่ง ออสการ์ คาร์โดโซ่ ลงมาเสริมเกมรุกอีก และน่าจะได้สุดๆเมื่อ วัลเดซ ได้พลิกบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษได้สวยมากแล้ว แต่ว่า คาวาชิม่า ก็ไวออกมาดักบอลได้ทันเวลา ปารากวัย จะ

แต่ญี่ปุ่น ก็มีลูกสูตรที่น่ากลัวในจังหวะฟรีคิกเยื้องไปทางซ้าย ฮอนดะ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปปากประตูโดยที่เพื่อนตามมาเข้าชาร์จไม่ทัน แต่ก็ทำให้ บีญาร์ต้องพุ่งปัดออกไปก่อน

นาทีี่ 101 ปารากวัย ได้เปิดบอลโด่งเข้ามาในเขตโทษ กองหลังญี่ปุ่น สกัดไม่ขาดมาโดน บาร์เน็ตโต้ พยายามจะดีดบอลแต่ก็โด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่จะยังไม่มีใครทำอะไรกันได้จนหมดครึ่งแรกของการต่อเวลา

ช่วง 15 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมเริ่มมีอาการป้อแป้ให้เห็น โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่เริ่มหมดแรง แต่ก็มีจังหวะโต้กลับขึ้นมา บอลมาถึงเขตโทษให้ โอคาซากิ ตอกส้นคืนกลับมาให้ทามาดะ ได้หลุดในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายกลับจ่ายไม่ถึง นากามูระ ที่เติมขึ้นมาทำให้พลาดโอกาสไป ก่อนที่สุดท้ายจะจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน

ในการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่าปารากวัย ยิงเข้าทั้ง 5 คน โดยที่ ญี่ปุ่น พลาดคนเดียวคือ โคมาโนะ ที่ซัดไปชนคาน ทำให้จบเกม ปารากวัย ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ข่าวฟุตบอล บีย่าฮีโร่สเปนเฉือนฝอยทอง 1-0

ข่าวฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 29 มิ.ย. 2010


สเปน 1-0 โปรตุเกส
ผู้ ทำประตู : 1-0 ดาวิด บีย่า น.63
ใบแดง : ริคาร์โด คอสต้า น.89 (โปรตุเกส)
สนาม : เคป ทาวน์ สเตเดี้ยม


บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือ "กระทิงดุ" ใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากที่ชนะ ชิลี โดย ดาวิด บีย่า เป็นกองหน้าคู่กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เช่นเคย ขณะที่ ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์เรอัล มาดริด ก็ฟิตกลับมาลงสนามได้หลังจากที่มีปัญหาเจ็บข้อเท้า

ขณะที่ คาร์ลอส เคยรอช โค้ชโปรตุเกส เปลี่ยนแปลงผู้เล่น 2 คนเนื่องจาก แดนนี่ กองหน้าและ ดูด้า มิดฟิลด์ ได้รับบาดเจ็บทำให้ ฮูโก้ อัลเมด้า และ ซิเมา ได้ลงเป็นตัวจริง โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นกัปตันทีมเช่นเคย

เริ่มเกมได้แค่นาทีเดียว ตอร์เรส ได้โอกาสยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลเกือบจะโค้งเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ เอดูอาร์โด้ ยังเหินปัดออกไปได้ทันเช่นเดียวกับลูกยิงไกลของ บีย่า ในอีก 2 นาทีต่อมา

นาทีที่ 7 บีย่า พาบอลเลี้ยงลุยมาทางกรายซ้ายได้สวยก่อนจะหาโอกาสยิงยัดเสาแรก แต่นายทวารโปรตุเกส ยังไม่ยอมพลาด โดยหลังจากนั้นทั้งสองทีมเปิดแลกกันอย่างสนุก แต่เป็น สเปน ที่ครองบอลได้มากกว่า

ทว่า นาทีที่ 20 ทีมฝอยทอง เกือบเป็นฝ่ายขึ้นนำเมื่อ ติอาโก้ ได้ซัดเต็มข้อจากบริเวณกรอบเขตโทษ อีเคร์ กาซิยาส ออกมาปัดไม่ค่อยดีทำให้บอลเกือบจะย้อยเข้าประตู แต่จอมหนึบจากเรอัล มาดริด ก็ยังถอยกลับมาปัดออกไปได้ก่อนที่ อัลเมด้า จะโถมโหม่งจ่อๆ

นาทีที่ 28 ทีมฝอยทองมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา โรนัลโด้ รับหน้าที่ยิงเช่นเคย บอลพุ่งไปตรงตัว กาซิยาส ที่ทำบอลกระฉอก แต่กองหลังยังช่วยกันสกัดพ้นอันตรายได้ทัน

อีก 2 นาทีต่อมาเป็นโอกาสของ สเปน บ้าง แต่ลูกยิงของ บีย่า ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 38 ราอูล เมยเรเรส โยนบอลไปที่เสาสอง แต่ อัลเมด้า โหม่งหลุดเสาออกไป และอีก 4 นาทีต่อมา ซิเมา ได้หลุดเดี่ยว แต่ กาซิยาส ยังออกมาสกัดบอลนอกกรอบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะเสมอกัน 0-0 เมื่อจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม นาทีที่ 52 โปรตุเกส เกือบขึ้นนำจากจังหวะที่ อัลเมด้า โยนมาหน้าประตู ปูโยล สกัดเกือบจะเข้าประตูตัวเอง แต่โชคดีที่บอลผ่านหน้าประตูไป

นาทีที่ 57 ตอร์เรส ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก โดย เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ได้ลงมาแทน และถัดมาแค่ 3 นาที หัวหอกแอธเลติก บิลเบาเกือบจะเป็นซูเปอร์ซับเมื่อได้โหม่งจ่อๆ แต่ เอดูอาร์โด้ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟไว้ได้ ก่อนที่ บีย่า จะปั่นบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว

นาทีที่ 63 สเปน ต่อบอลกันมาได้สวยก่อนที่ ชาบี จะตอกลูกส้นให้ บีย่า ได้ยิงไปติด เอดูอาร์โด้ ในจังหวะแรก แต่ก็ยังเร็วพอที่จะซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายให้ "กระทิงดุ" นำ 1-0

นาทีที่ 70 แชมป์ยูโร 2008 เกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ รามอส เติมขึ้นสูงก่อนจะลากตัดเข้าในและกดด้วยซ้าย แต่นายทวารฝอยทองยังปัดได้ปลายมือ

จากนั้น โปรตุเกส ก็เปลี่ยนตัวสองคนรวดด้วยการส่ง ลีเอ็ดสัน และ เปโดร เมนเดส ลงมาแทน ซิเมา และ เปเป้ ตามลำดับ

นาทีที่ 77 บีย่า ก็ได้โอกาสยิงบริเวณกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่ยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์โด้

ช่วงท้ายเกมโปรตุเกส มาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ริคาร์โด้ คอสต้า ไปทำฟาวล์นอกเกมใส่ โจน คัปเดบีล่า ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มกันได้ จบเกม สเปน เฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 และจะเข้าไปพบกับ ปารากวัย ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันที่ 3 ก.ค. นี้

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ข่าวฟุตบอล ฮอลแลนด์ 2-1 สโลวาเกีย เข้ารอบต่อไป

ผลฟุตบอลโลก รอบ 16ทีมสุดท้าย

ฮอลแลนด์ 2-1 สโลวาเกีย

เริ่ม เกม 5 นาทีแรกเป็นทางด้านฮอลแลนด์ทำกเกมได้เหนือกว่าสโลวาเกียเยอะ และมีโอกาสยิงครั้งจากเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ แต่บอลก็หลุดกรอบออก และในจังหวพต่อมาเดิร์ค เคาท์ ได้โอกาสซัดด้วยขวา แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบประตูอยู่ดี ถึงตอนนี้ฮอลแลนด์ก็ยังเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องใส่สโลวาเกีย

10 นาทีผ่าน เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ได้โอกาสยิงไกลอีกครั้ง ผู้รักษาประตู สโลวาเกียรับบอลไม่อยู่ เดิร์ค เคาท์ ยิงตามเข้าไปซ้ำ แต่แยน มูค่า ผู้รักษาประตู สโลวาเกียก็ยังเซฟไว้ได้แบบเหลือเชื่อ ถึงตอนนี้ฮอลแลนด์มีโอกาสสร้างเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง

แล้วอีก 8 นาทีต่อมา อาร์เยน ร็อบเบน ก็ทำให้แฟนบอลฮอลแลนด์ได้เฮ จากจังหวะลากเดี่ยวตัดเข้ากลาง แล้วกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเบียดเสาแรก อย่างงาม แยน มูค่า ผู้รักษาประตูสโลวาเกียหมดสิทธิรับแน่นอน ฮอลแลนด์นำ สโลวาเกีย 1ต่อ0 ในนาทีที่18

25 นาทีผ่าน ยังเป็นทางด้านฮอลแลนด์เดินเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง และเกือบมีจังหวะได้ประตูทีสองหลายครั้งจากเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ และเดิร์ค เคาท์ ถึงตอนนี้การครองบอล ฮอลแลนด์ดูดีกว่าสโลวาเกียอยู่เยอะ

ในนาที 32 โจวานนี่ ฟาน บรองก์ฮอร์สท์ ได้โอกาสยิงฟรีคิก หน้ากอรบแต่ แยน มูค่า ก็ยังโชว์เทพปัดออกหลังไปได้ เข้าสู้ช่วงท้ายเกม ฮอลแลนด์ก็ยังเดินบุกใส่เพื่อหาประตูที่สองแต่ก็ยังทำเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ฮอลแลนด์ 1 สโลวาเกีย 0

เริ่มเกมมาในครึ่งหลัง สโลวาเกียก็ยังตั้งเกมบุกของตัวเองยังไม่ได้ ยังเป็นฝ่ายตั้งรับเหมื่อนครึ่งแรกไม่มีผิด และ อาร์เยน ร็อบเบน ก็ได้จังหวะครั้งแรกในครึ่งหลัง แต่ แยน มูค่า ก็ยังปัดทิ้งออกไปได้อีก และจังหวะต่อเนื่อง ยอริส มาไธจ์เซ่น ก็ได้จังหวะซัดเต็มด้วยขวา จากการเปิดของเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ จากลูกเตะมุม แยน มูค่า ก็ยังปัดทิ้งออกไปได้อีก ต้องบอกว่าเป็นโอกาสที่น่าจะได้ประตูแบบสุดๆ ของฮอลแลนด์เลย

และนาที 58 ฮอลแลนด์ ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวาโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตัดสิ้นใจยิงไกล ร่วม35หลา แยน มูค่า ต้องออกแรงปัดบอลทิ้งไปได้อีกรอบ ต้องบอกเลยว่างานของ แยน มูค่า ตอนนี้เยอะจริงๆ และอีกสองนาทีถัดมา วลาดิเมียร์ ไวส์ ได้โฮกาสยิงไกลครั้งแรกในครึ่งหลัง แต่บอลก็พุ่งหลุดเสาออกไป

นาที 65 เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ได้จังหวะยิงด้วยขวาเต็มข้อ แต่พุ่งไปติดบล็อกกองหลังของสโลวาเกีย แบบได้ลุ้น และจังหวะต่อมา มิโรสลาฟ สต็อช ได้จังยิงเต็มเท้า หน้ากรอบเขตโทษ แต่มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ปัดออกหลังไปแบบหวุดหวิด และในจังหวะต่อมา โรเบิร์ต วิทเท็คได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปล้อเป้า แต่มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ก็ยังโชว์เซฟไว้ได้อีกครั้ง

นาที 70 เดิร์ค เคาท์ ได้ยิงเต็มข้อแต่บอลก็หลุดกรอบไปแบบเหลือเชื่อ ตอนนี้ทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมเข้าใส่กัน แบบสุดมัน ต้องบอกเลยว่า แยน มูค่า ในครึ่งแรกหลังเหนื่อยสุดๆ อีก 8 นาที ต่อมา โรเบิร์ต วิทเท็ค ได้ซัดด้วยเท้าขวา โล่งๆ แต่บอลก็เหินข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เข้าสู่นาที 85 ฮอลแลนด์ก็มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะโยนยามมาให้ เดิร์ค เคาท์ แล้วเปิดกลับเข้าในเขตโทษ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ วิ่งเข้ามาแป ง่ายๆ ตุงตาข่าย ฮอลแลนด์ 2 สโลวาเกีย 0 เข้าสู่ช่วงท้ายเกมสโวาเกียส่งกองหน้ามาเพิ่มถึงสองคนหวังทีจะเอาประตูเพิ่ม แต่ก็ทำอะไรฮอลแลนด์ไม่ได้ ถึงตอนนี้ฮอลแลนด์ เริ่มเคาะบอลไปมาเพื่อหวังจะปิดเกม

แต่ช่วงทดเวลาเจ็บ สโวาเกียมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ออกมารวบขา ของ วิทเทค ล้มในเขตโทษ และก็เป็น วิทเทครับหน้าทีสังหาร แล้วก็ไม่พลาด สโลวาเกียไล่มามา 1ต่อ 2 แล้วผู้ตัดสิินก็เป่านกหวีดจบเกม ฮอลแลนด์ เอาชนะ สโลวาเกียไป 2ต่อ1

ข่าวฟุตบอล แซมบ้ายำแซ่บชิลี3:0 ฉลุย8ทีมฟัดฮัศวินสีส้ม

ศึกลูกหนังฟุตบอลโก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้ายวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน "แซมบ้า" บราซิล ถล่มชิลี ไปแบบขาดลอย 3:0 เดินเข้าสู่รอบ8ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2553
บราซิล 3:0 ชิลี

ครึ่งแรก เริ่มครึ่งแรกชิลีได้เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน ชิลีก็เปิดเกมบุกทันที แต่ทีมที่ได้ลุ้นก่อนกลับเป็น บราซิลในนาที 4 จากจังหวะโต้กลับเร็วของบราซิล หลุยส์ ฟาเบียโน่ หลุดมาทางขวาเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาแต่ยิงบดไปมากบอลเลยเสา สองออกหลังไป

บราซิลเริ่มมาเป็นชุด นาที 8 จิลแบร์โต้ ซิลวา ได้ซัดไกลนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งแรงติดไซด์ก้อยทำท่าจะมุดเสาแต่ เคลาดิโอ บราโว่ ยังไม่พลาดกระโดดพุ่งปัดไว้ได้และอึดใจเดียว กาก้า ก็ได้ส่องไกลนอกกรอบบ้างแต่ยังไม่ดีพอ

นาที 13จากลูกวางบอลยาวกลางสนามมาถึงหน้าเขตโทษ อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ ยิงเร็วด้วยขวาทันที ชูลิโอ เซซ่าร์ ยังรับไว้ได้ และอีกสองนาทีถัดมา รามิเรส แข้งแซมบ้ามีโอกาสได้ส่องไกลนอกกรอบ เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารชิลีล้มตัวรับไว้ได้

ชิลีหาทางเจาะเกมบราซิลลำบากจึงได้ลองส่องไกลนอกกรอบในนาที 22 ของอเล็กซิส ซานเชซ และอีกจังหวะจากการยิงไกลของ กอนซาโล่ ฆาร่า

นาที28บราซิลได้ลูกเตะมุม ดั๊กลาส ไมค่อน เปิดลูกเตะมุมโด่งยาวมาหน้าประตู ฮวน ได้เทกตัวขึ้นโขกแตผิดเหลี่ยมไปมากบอลปลิ้นออกหลังไป

แซมบ้ามาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1:0 จน ได้ในนาที 35 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ดั๊กลาส ไมค่อน วางบอลยาวมาหน้าประตู ฮวน ได้กระโดดขึ้นโหม่งไม่พลาดบอลเสียบตาข่ายเข้าไปสุดสวย

นาที 38 บราซิลมาได้ประตูหนีห้างเป็น 2:0 จากจังหวะที่ โรบินโญ่ ลากบอลมาทางกราบซ้ายจ่ายตัดเข้าในให้ กาก้า แล้วแทงบอลเร็วไปหน้าประตู หลุยส์ ฟาเบียโน่ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษโชว์ทักษะล็อคหลบ เคลาดิโอ บราโว่ ประตูชิลี แล้วยิงเข้าไปจ่อๆแบบเลือดเย็นบอลข้ามเส้นเข้าประตูไป

ช่วงท้ายเกมในครึ่งแรก ยังเป็นบราซิลที่ครองเกมได้มากกว่าและได้ลุ้นจากลูกพุ่งโหม่งของ หลุยส์ ฟาเบียโน่ จบเกมครึ่งแรก "แซมบ้า" บราซิล ยังนำ ชิลี อยู่2:0

ครึ่งหลัง เริ่งเกมครึ่งหลังแค่3นาทีแรกบราซิลก็ได้ลุ้นก่อนอย่างรวดเร็วจากลูกฟรีคิก นอกกรอบทางซ้าย ดาเนียล อัลเวส เป็นคนปั้นบอลเหินข้ามคานหลุดเสาสองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 59 แซมบ้ามาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกเป็น 3:0 จากจังหวะที่ รามิเรส ตัดบอลได้จากกลางสนามกระชากบอลลากเลื่อยมาถึงไกล้เขตโทษชิลีแล้วแทงบอลออก ด้านซ้ายให้ โรบินโญ่ ยิงปั้นด้วยขวาบอลเสียบเสาเข้าไปสุดงาม

นาที 66 ชิลีได้ลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ อเล็กซิส ซาน จ่าบบอลตัดเข้ากลางให้ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย แตะบอลแล้วซัดด้วยขวาใบไม้ล่วงเสียบหลังตาข่ายยังไม่เป็นประตูและอีก3นาที ถัดมา กาก้า ได้มีโอกาสลุ้นประตูจากลูกส่องไกลนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

แซมบ้าบราซิลมาได้โอกาสทองอีกครั้งนาที 73 จากจังหวะโต้กลับเร็ว โรบินโญ่ ได้บอลจากกลางกระชากบอลมาทางฝั่งขวาก่อนเลี้ยงบอลจี้เข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจ ยิงเองอัดไปที่เสาสองแต่บอลยังไปติดมือของ เคลาดิโอ บราโว่ ปัดออกหลังไปช่วยทีมเอาไว้ได้

นาที 78 เป็นจังหวะได้ลุ้นตีไข่แตกของชิลี โรดริโก้ เตลโล่ ตัวสำรองเตะมุมวางยาวมาถึงกลางประตู อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ ได้ซัดบอลลอยโค้งตกลงโดนเหลี่ยมบนของคานออกไป

ช่วงทดเจ็บ ชิลียังมีลุ้นตีไข่แตกจากจังหวะที่ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย ตัวสำรองชิลีได้มีโอกาสยิงไม่ดีพอที่จะเป็นประตู กรรมการเป่าจบ90นาที "แซมบ้า" บราซิล ถล่มชิลี ไปแบบขาดลอย 3:0 เดินเข้าสู่รอบ8ทีมสุดท้าย

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตารางแข่งฟุตบอลโลก 2010 รอบสอง



โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบสองได้ที่นี่ รวม 4 วัน 8 แมตช์การแข่งขัน



วัน เวลา ทีม ทีม ช่อง
26/6 21.00 อุรุกวัย VS เกาหลีใต้ 11
26/6 01.30 อเมริกา VS กาน่า 9
27/6 21.00 เยอรมัน VS อังกฤษ 7
27/6 01.30 อาร์เจนตินา VS เม็กซิโก 3
28/6 21.00 ฮอลแลนด์ VS สโลวาเกีย 11
28/6 01.30 บราซิล VS ชิลี 9
29/6 21.00 ปารากวัย VS ญี่ปุ่น 7
29/6 01.30 สเปน VS โปรตุเกส 3

ข่าวฟุตบอล ฟ้าขาวถลุงจังโก 3-1 ฉลุยชนเบียร์

ข่าวฟุตบอล ฟ้าขาวถลุงจังโก 3-1 ฉลุยชนเบียร์

สมราคาทีมเต็ง อาร์เจนติน่าเป็นฝ่ายเอาชนะเม็กซิโกไม่ยากเย็น 3-1 โดยคาร์ลอส เตเวซ หัวหอกตัวเก่งซัดคนเดียว 2 เม็ด บวกกับอีกประตูของกอนซาโล่ อิกัวอิน ทำให้พวกเขาทะยานเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปเจอกับเยอรมันนีแล้ว


ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีม

อาร์เจนติน่า 3 - 1 เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า พบ เม็กซิโก ทีมจากละตินอเมริกาเช่นกัน โดยเกมนี้ทัพฟ้าขาวส่งชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย 3 ประสาน ลิโอเนล เมสซี่, คาร์ลอส เตเวซ และ กอนซาโล่ อิกัวอิน ขณะที่จังโก้ฝากความหวังที่ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ, โจวานี่ ดอส ซานโตส และ อดอลโฟ่ เบาติสต้า

เริ่ม เกมมา เม็กซิโกทำเกมได้ดุดัน นาทีที่ 8 ก็ทักทายอย่างน่าหวาดเสียวจากลูกยิงไกลนอกกรอบของ คาร์ลอส ซัลซิโด้ ที่ส่งบอลไปชนคานอย่างจัง ทำเอาแฟนๆ ครางฮือ

แต่นาทีที่ 26 อาร์เจนติน่าก็นำ 1-0 เมื่อเมสซี่ดีดบอลให้คาร์ลอส เตเวซ โขกจ่อๆ ตุงตาข่าย ท่ามกลางแข้งจังโก้ที่พากันประท้วงว่าล้ำหน้า แต่กรรมการปล่อยผ่าน

หลังได้ประตูนำ ทัพฟ้าขาวก็ได้ใจ กระทั่งนาทีที่ 33 ก็นำห่าง 2-0 เมื่อกอนซาโล่ อิกัวอิน ฉกบอลจากริคาร์โด้ โอโซริโอ เซนเตอร์ฮาล์ฟจังโก้แล้วพาบอลลุยขึ้นไปยิงตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น ทำให้เขานำเป็นดาวซัลโวในรายการนี้จากการสังหารไปแล้ว 4 ประตู

เม็กซิโก พยายามบุก ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว ราฟาเอล มาร์เกซ กปตันจังโก้สบโอกาสส่องไกล 30 หลา แต่ติดเซฟ เซร์คิโอ โรเมโร่ ผู้รักษาประตูฟ้าขาว จบครึ่งแรก อาร์เจนติน่าจึงนำเม็กซิโก 2-0

ใน ครึ่งหลัง เม็กซิโกแก้เกมส่ง ปาโบล บาร์เรร่า กองหน้าลงมาเล่นแทน อดอลโฟ่ เบาติสต้า แต่สถานการณ์ก็ยังเป็นใจให้อาร์เจนติน่า

นาทีที่ 52 ฟ้าขาวนำห่าง 3-0 เมื่อเตเวซ ได้โอกาสวางเท้ายิงด้วยขวาส่งบอลตุงตาข่ายเด็ดขาด เป็นประตูที่สองของเขาในนัดนี้ด้วย

ถัดมานาทีที่ 69 จังโก้หวิดตีไข่แตก เมื่อคาร์ลอส ซัลซิโด้ โยนบอลให้ บาร์เรร่า ตัวสำรอง ยิงข้ามตัวนายด่านฟ้าขาวไปแล้ว แต่ติด มาร์ติน เดมิเคลิส ที่โหม่งสกัดได้บนเส้นปากประตู

ต้องรอจนนาทีที่ 71 เม็กซิโกจึงไล่มาที่ 1-3 จากลูกยิงของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ แต่ก็ไม่ทันแล้ว จบเกมอาร์เจนติน่าถล่มเม็กซิโก 3-1 ส่งให้ทัพฟ้าขาวผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบ เยอรมัน ในวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.นี้

ข่าวฟุตบอล อินทรีเหล็ก ถลุงสิงโตขาด 4-1

ข่าวฟุตบอลโลก อินทรีเหล็ก เยอรมัน โชว์ฟอร์มเด็ดขาดเอาชนะ สิงโตคำราม อังกฤษ ได้อย่างขาดลอย 4-1 โดยเกมนี้มีลูกปัญหาเหมือนนัดชิงปี 1966 ที่อังกฤษ ยิงชนคานบอลตกผ่านเส้นแต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ประตูทำให้กระแสเกมไม่พลิกมา เข้าทาง


ฟุตบอลโลก 2010 รอบน็อคเอาต์ (27 มิ.ย.53)

เยอรมัน 4-1 อังกฤษ

สนาม : ฟรีสเตท สเตเดี้ยม


ประตู :

1-0 โคลเซ่ 20

2-0 โพดอลสกี้ 33

2-1 อัพสัน 38

3-1 มุลเลอร์ 67

4-1 มุลเลอร์ 70

เกมสุดยอดของรอบสองเมื่อสองทีมดัง “อินทรีเหล็กเยอรมัน และ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ต้องมาเจอกันเองในรอบที่ 2 โดยเกมนี้ทั้งสองทีมปึ้กสุดๆ เยอรมันได้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ พ้นโทษแบน ขณะที่อังกฤษ ใช้ชุดเดิมจากเกมที่ชนะสโลวีเนีย ล่าสุด

เริ่มต้นเกมมาทางด้านเยอรมัน เป็นฝ่ายที่เปิดฉากลุยเข้าใส่ทันที และแค่นาทีที่ 4 ก็เกือบได้เฮแล้ว โดยเป็นจังหวะของ โอซิล ที่ได้บอลเปิดเข้าเขตโทษก่อนจะหลุดเข้าไปได้ซัดเดี่ยวๆ แต่เจมส์ ใช้ขาเซฟได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากนั้น เกมเป็นของทีมเมืองเบียร์ที่เล่นได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยอังกฤษ ต่อบอลทำเกมแทบไม่ได้เลย และมาถึงนาทีที่ 20 เยอรมัน ก็มาได้ประตูนำ 1-0 ในจังหวะที่ นอยเออร์ สาดบอลจากประตูขึ้นมาบอลกระเด้งมาเข้าทาง โคลเซ่ วิ่งหลุดเข้าเขตโทษแล้วเบียดเอาชนะอัพสันได้ ก่อนจะจิ้มผ่าน เจมส์ เข้าไป

อังกฤษ พยายามตอบโต้แต่ก็ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก ตรงข้ามกับเยอรมัน ที่ลุยขึ้นมาทีไรก็สร้างความป่วนได้ตลอด และ โคลเซ่ ก็เกือบจะยิงประตูที่สองได้ด้วยเมื่อได้บอลจ่ายทะลุช่องให้โดย มุลเลอร์ แต่ยิงไม่ผ่านเจมส์

แต่เยอรมัน ก็มาหนีเป็น 2-0 ได้สำเร็จในนาทีที่ 33 จากการประสานงานสุดยอดจากการต่อบอลเป็นทอดๆ โอซิล ให้โคลเซ่ ดีดทำชิ่งให้กับ โธมัส มุลเลอร์ หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะเปิดให้ โพดอลสกี้ ที่เติมมาพอดีซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด

สิงโตคำรามยังไม่ยอมแพ้ ไล่มาเป็น 2-1 ได้ในอีก 5 นาทีต่อมาจากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวา แล้วเล่นสั้นกัน ก่อนที่เป็น เจอร์ราร์ด เปิดลึกเข้ามาให้ อัพสัน ได้ขึ้นโขกบอลแก้ตัวจากความผิดพลาดที่ทำให้ทีมเสียประตูแรก

นาทีถัดมา อังกฤษ ควรได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 ด้วยเมื่อดันเกมขึ้นมาอีก เดโฟ พลิกบอลหน้าเขตโทษแต่โดนสกัดได้ บอลมาเข้าทาง แลมพาร์ด วิ่งเติมมายิงแบบเน้นๆบอลพุ่งไปชนคานก่อนกระเด้งลงมา แต่กลายเป็นการเฮเก้อกันทั้งทีมเมื่อผู้ตัดสินไม่ให้ประตู

ช่วงที่เหลือ อังกฤษ ยังพยายามจะบุกเพื่อตีเสมอให้ได้ แต่ว่าก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมครึ่งแรกเยอรมัน จึงยังนำอยู่เหมือนเดิม

ครึ่งหลังอังกฤษ ลุยต่อเนื่องและเกือบจะตีเสมอได้จากลูกฟรีคิกระยะกว่า 35 หลา แลมพาร์ด ตะบันด้วยขวาบอลพุ่งไปชนคานดังสนั่น ถือเป็นการเปิดฉากครึ่งหลังให้สนุกตื่นเต้นอีกครั้ง โดยหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เปิดเกมแลกกันตลอด

อังกฤษ พยายามบี้หนักและจ่ายบอลขึ้นหน้าให้เร็วขึ้น ซึ่งก็ทำได้สวย 2-3 ครั้งแต่ยังไม่สำเร็จ ขณะที่เยอรมัน โต้กลับมาและใช้การยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษโดยมีจังหวะของ มุลเลอร์ และชไวน์สไตเกอร์ ที่ได้ลุ้นเหมือนกัน

แต่มาถึงนาทีที่ 67 อังกฤษ ก็มาเสียประตู 3-1 ในจังหวะที่ขึ้นไปเล่นลูกเตะมุมแล้วมาพลาดโดนสวนกลับเร็ว เยอรมันขึ้นมา 3 ต่อ 2 ก่อนที่ ชไวน์สไตเกอร์ จะเลือกจ่ายให้ มุลเลอร์ จบสกอร์เข้าไปอย่างสวยงาม

เกมมาขาดในอีก 3 นาทีถัดมา โดยเป็นประตูในรูปแบบเดิมเป๊ะเมื่อเยอรมัน สวนกลับในจังหวะที่อังกฤษ พลาดในการเล่นลูกเตะมุมเป็นทางด้าน โอซิล ที่สปีดพาบอลหนี แบร์รี่ ไปแบบคนละชั้นก่อนจะใส่พานให้ มุลเลอร์ เติมมาเข้าฮอสสบายๆ

ที่สกอร์ 4-1 เยอรมัน ก็เล่นประคองตัวอย่างสบายๆ แต่อังกฤษ ก็ยังไม่ถึงกับถอดใจมีจังหวะที ่เจอร์ราร์ด เติมมาได้ยิงในเขตโทษแต่ว่านอยเออร์ เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่สุดท้ายจะรักษาสกอร์เอาไว้ได้สำเร็จ และได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายรอเจออาร์เจนติน่า หรือเม็กซิโก


ผู้ ตัดสิน : ลาร์ริออนด้า

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เดโฟสุดหล่อยิงสุดสวยช่วยสิงคว้าชัย 1-0




เจอร์เมน เดโฟกองหน้าซาไกตอบแทนฟาบิโอ คาเปลโล่ด้วยประตูชัยดับ+เขี่ยสโลเวเนียหวุดหวิด 1-0 แต่โชคร้ายสหรัฐอเมริกาดันแซงเฮได้แชมป์กลุ่มเลยต้องไปชนตออย่างเยอรมันใน รอบ 16 ทีมสุดท้ายแทน

ฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม C

วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2553

สโลเวเนีย 0 - 1 อังกฤษ

ประตู : 0-1 เจอร์เมน เดโฟ น.23

เดโฟคู่หมูตามคาด-มิลเนอร์ทำเกมริมเส้น
เจอร์เมน เดโฟได้ลงเล่นร่วมกับเวย์น รูนี่ย์ให้กับทีมชาติอังกฤษในแดนหน้าตามที่คาดการณ์กันได้ ส่วนแผงมิดฟิลด์เป็นแลมพาร์ดคู่เจอร์ราร์ด และมีแบร์รี่เป็นกองกลางตัวรับ ในขณะที่เกมริมเส้นเจมส์ มิลเนอร์ได้รับโอกาสแก้ตัว หลังจากเกมแรกเตะได้ห่วยแตกสุด ๆ

ข่าวฟุตบอล เรือใบพร้อมราคาขายโรบินโญ่





เดอะ ซันเดย์ มิร์เรอร์ ลงข่าวทีม"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศพร้อมขาย โรบินโญ่ สตาร์ชาวบราซิเลี่ยนออกไป ในราคาที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน


ปัจจุบัน โรบินโญ่ ได้หมดสัญญายืมตัวกับทีมซานโต๊ส ของลีกบราซิล เป็นที่เรียบร้อย และเจ้าตัวก็ชัดเจนว่าไม่อยากลงเล่นให้กับทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์อีก ซึ่งตัวแทนของโรบินโญ่ ก็ได้เตรียมเข้าพบกับทางบอร์ดของแมนฯ ซิตี้แล้วในวันพุธที่จะถึงนี้


จากข่าวดังกล่าว ทำให้แบรนด์ ชูสเตอร์ ผู้สนใจในตัวโรบินโญ่ ตั้งแต่เมื่อเขาอยู่ที่ทีมเรอัล มาดริดแล้ว แสดงท่าทีอยากได้ตัวเขามาร่วมทีมอีกครั้งหนึ่ง กับทีบเบซิคตัส ลีกโปรตุเกส ที่เขาคุมอยู่ในปัจจุบัน

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แอฟริกาใต้เซ็ง!ดับฝรั่งเศส2-1แต่ปิ๋วรอบแรก


ข่าวฟุตบอลโลก 2010

รอบแรก นัดสุดท้าย

กลุ่ม เอ

ฝรั่งเศส 1 - แอฟริกาใต้ 2



เกมสำคัญของทั้งฝรั่งเศสและ แอฟริกาใต้ เจ้าภาพ ที่ต้องเก็บชัยชนะด้วยสกอร์มากๆ และลุ้นผลอีกคู่ไม่ให้เสมอกัน ถึงจะมีลุ้นแซงเข้ารอบ แต่ก็ถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องรอปาฏิหาริย์ทั้งคู่

ตราไก่ปรับทัพถึง 6 ตำแหน่ง เฌเรมี่ ตูลาล็อง ติดโทษแบน ส่วน ปาทริซ เอวร่า กัปตันทีม เป็นสำรอง หลังมีปัญหากับนักกายภาพ และเป็นแกนนำประท้วงไม่ลงซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้ก็ไล่ นิโกล่าส์ อเนลก้า กลับบ้านไปก่อนแล้ว

เกมนี้ อาลู ดิยาร์ร่า เป็นกัปตันทีมแทน เซบาสเตียง สกิลลาซี่, กาแอล กลิชี่, โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์, ฌิบริล ซิสเซ่ และ อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก ได้โอกาสลงตัวจริงทั้งหมด

ทางฝั่ง บาฟาน่า บาฟาน่า ก็ปรับระบบมาเล่น 4-4-2 และปรับ 5 ตำแหน่ง อิตูเมเล็ง คูเน่ กับ คากิโช่ ดิคคาชอย ติดโทษแบนทั้งคู่ ส่ง โมเอนีบ โจเซฟส์ ลงเฝ้าเสาแทน ที่เหลือ อาเนเล่ เอ็งคองก้า, บองกานี่ คูมาโล่, ธานดูยิเซ่ คูโบนี่ และ เบอร์นาร์ด พาร์เกอร์ ได้ลงตัวจริง

เริ่มเกมขึ้นมา 3 นาที ตราไก่ได้โอกาสทักทายแบบงามๆ ก่อน เมื่อ อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้ว แต่ดันแปด้วยเท้าขวาบดไปเข้ามือ โจเซฟส์ ไม่ยากเย็นนัก

หลังจากนั้น แอฟริกาใต้เริ่มตั้งเกมได้ และทำเกมบุกได้ดีขึ้น จนนาทีที่ 20 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมฝั่งขวา ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า เปิดด้วยซ้าย อูโก้ โยริส ออกมาตัดบอลพลาด ข้ามไปตกที่ บองกานี่ คูมาโล่ ขึ้นโหม่งแต่บอลไปโดนแถวๆ ต้นแขนเข้าประตูไป

บาฟาน่า บาฟาน่า เกือบได้ลูกสองในนาทีที่ 24 จากลูกทุ่มกลางสนาม คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า รับบอลแล้วลากขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะตะบันด้วยเท้าขวาระยะ 20 หลา หลุดเสาออกไปไม่มาก

สถานการณ์ของฝรั่งเศสย่ำแย่เข้าไปอีก เมื่อต้องเหลือ 10 คน ในนาทีที่ 25 โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์ ขึ้นโหม่งพร้อมกับ แม็คเบธ ซิบาย่า แล้วยกแขนขึ้นไปกระแทกหน้า ทำให้ ออสการ์ รูอิซ ผู้ตัดสินชาวโคลอมเบีย ตัดสินใจชูใบแดงไล่กูร์กกุฟฟ์

นาทีที่ 34 เจ้าภาพมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายข้ามกำแพง แต่ก็ข้ามคานออกไปด้วย

แอฟริกาใต้ เริ่มมีความหวังขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 37 เซโป มาซิเลล่า ลุยขึ้นมาในเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดยัดให้ คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า บอลพันแข้งพันขา แต่ กาแอล กลิชี่ ก็สกัดวืดวาด เอ็มฟีล่าเลยยิงจ่อๆ หลาเดียวไม่เหลือ

นาทีถัดมา กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อ เมื่อเกือบได้เม็ดสามติดๆ เบอร์นาร์ด พาร์เกอร์ เกี่ยวบอลติดแล้วแปเน้นๆ ผ่านโยริสเข้าไป แต่มีธงล้ำหน้ายกขึ้นจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน

ตราไก่จะขอประตูคืนบ้าง ฟร้องค์ ริเบรี่ ปั่นฟรีคิกเน้นๆ ในนาทีที่ 40 แต่โจเซฟส์ ปัดข้ามคานออกไปได้ จบครึ่งแรก แอฟริกาใต้นำ 2-0

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ปรับทัพด้วยการส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า ลงไปแทน อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก

นาทีที่ 51 แอฟริกาใต้ น่าได้ประตูที่สามอย่างที่สุด เมื่อ ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า แทงบอลให้ คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า สอดหนี บาการี่ ซาญ่า ไม่ล้ำหน้า ก่อนแปผ่าน โยริส ไปชนเสาออกหลัง

ตราไก่ ต้องเปลี่ยนตัวที่สองในนาทีที่ 55 ส่ง เธียร์รี่ อองรี ลงแทน ฌิบริล ซิสเซ่ เป็นการลงเล่นนัดที่ 17 ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทำสถิติสูงสุดเทียบเท่า ฟาเบียง บาร์กเตซ ด้วย

เจ้าถิ่นพยายามบุกเอาประตูที่สามให้ได้ นาทีที่ 57 คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า กองหน้าตัวเก่ง ตะบันด้วยขวาเต็มเหนี่ยวจากระยะ 20 หลา แต่ โยริส ปัดออกหลังไปได้

ฝรั่งเศส มาเบิกประตูแรกในศึกฟุตบอลโลกหนนี้จนได้ในนาทีที่ 70 ไล่สกอร์ขึ้นมาเป็น 1-2 เมื่อ ฟร้องค์ ริเบรี่ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วเปิดบอลผ่าน โจเซฟส์ ไปให้ มาลูด้า ที่ยืนรออยู่หน้าประตู แปด้วยขวาเข้าไปโล่งๆ

แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกม แอฟริกาใต้ เฉือนชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 2-1 กอดคอกันตกรอบแรกทั้งคู่ แม้เจ้าภาพจะมี 4 แต้มเท่ากับเม็กซิโก แต่ประตูได้เสียสู้ไม่ได้


ผู้เล่นทั้งสองทีมที่ลงสนาม
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (1), บาการี่ ซาญ่า (2), วิลเลี่ยม กัลลาส (5), กาแอล กลิชี่ (22),โยอันน์ กูร์กกุฟฟ์ (8), ฌิบริล ซิสเซ่ (9), อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก (11), เซบาสเตียง สกิลลาซี่ (17), อาลู ดิยาร์ร่า (18), อาบู ดิยาบี้ (19), ฟร้องค์ ริเบรี่ (7)

แอฟริกาใต้ : ชู-ไอบ์ วอลเตอร์ส (1), เซโป มาซิเลล่า (3), อารอน โมโคเอน่า (4), ลูคัส ธวาล่า (5), แม็คเบธ ซิบาย่า (6), ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า (8), คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า (9), สตีเว่น พีนาร์ (10), เซอร์ไพรส์ โมริรี่ (17), บองกานี่ คูมาโล่ (20), ธานดูยิเซ่ คูโบนี่ (23)

ข่าวฟุตบอล กระทิงคืนฟอร์ม บีย่าซัดยิงดับฮอนดูรัส 2-0




ข่าวฟุตบอล
ฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม H
วันจันทร์ ที่ 21 มิถุนายน 2553
สเปน 2 - 0 ฮอนดูรัส ประตู : 1-0
ประตู: ดาวิด บีย่า น.17,2-0 ดาวิด บีย่า น.51

ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

ครึ่งแรก

"กระทิงดุ" เกือบได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 6 จากจังหวะที่ บีย่า ได้สับไกจากระยะ 30 หลา แต่บอลคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 16 ฮอนดูรัส โต้กลับเร็วได้สวย เมื่อ วอลเตอร์ มาร์ติเนซ จ่ายบอลให้ ซัวโซ่ ทะลุมาถึงกรอบเขตโทษ แต่ อีเคร์ กาซิยาส ยังปราดออกมาคว้าบอลไว้ได้ทัน

ถัดมานาทีเดียว เคราร์ด ปิเก้ เปิดบอลข้ามฟากให้ บีย่า ที่ลากตัดเข้าในก่อนจะล้มตัวยิง บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงามให้ สเปน ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 24 กระทิงดุพลาดโอกาสได้ประตูที่ 2 อย่างน่าเสียดาย เมื่อ เฆซุส นาบาส โยนบอลน้ำหนักเยี่ยมไปหน้าประตู แต่ ชาบี กลับพุ่งโหม่งไม่ถึง สเปน เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง โดยที่ ตอร์เรส มีโอกาสบวกสกอร์ให้ทีม 2 ครั้งติดๆ กันในนาทีที่ 33 และ 34 แต่ลูกโหม่งลงพื้นและลูกยิงเหน่งๆ ของเขากลับข้ามคานออกไป

จากนั้น ทีมแชมป์ยูโร 2008 ก็ยังเป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้ดีกว่า แต่ก็ไม่สามารถจะทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบครึ่งแรก สเปน นำอยู่แค่ 1-0

ครึ่งหลัง

ฮอนดูรัสแก้เกมส่ง จอร์จี้ เวลคัม กองหน้า ลงเล่นแทน โรเจอร์ เอสปิโนซ่า นาที 46 และนาที 51 สเปนนำห่าง 2-0 ชาบี เอร์นานเดซ จ่ายบอลมาตรงกลางให้ เฆซุส นาบาส เปิดมาเข้าทาง ดาบิด บีย่า ยิงเท้าขวาจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบโดนหัวเข่าของ ออสมัน ชาเวซ กองหลังฮอนดูรัส เข้าประตูไป นับเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้ และเป็นลูกที่ 40 ของเขาในทีมชาติ

ลูก ทีมของ เดล บอสเก้ เดินหน้าบุกต่อในนาที 53 รามอส กระชากบอลขึ้นมาซัดหน้าเขตโทษหลุดเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นนาที 60 "กระทิงดุ" มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ นาบาส ถูก อีซากีร์เร ทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ บียา ซึ่งรับหน้าที่สังหารกลับยิงไม่เข้ากรอบพลาดทำแฮตทริกของตนเองไป

อีก 5 นาทีต่อมา เดล บอสเก้ ก็เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกด้วยการส่ง เชสก์ ฟาเบรกาส ลงมาแทน ชาบี เอร์นานเดซ และอีกไม่กี่อึดใจต่อกัปตันทีมอาร์เซน่อล ก็ได้โอกาสยิงทันทีแต่บอลกลับถูกสกัดจากเส้น

นาที 68 ราม่อน นูเนซ ตัวสำรองของฮอนดูรัส ซัดฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลเหินข้ามคานไปไกล และสองนาทีต่อมา เดล บอสเก้ เปลี่ยนตัวสำรองคนที่สองส่ง ฆวน มาต้า ลงเล่นแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส

นาที ที่ 75 เคซุส นาบาสที่วันนี้ได้ลากบอลไปเปิดทางริมเส้นฝั่งขวาบ่อยครั้ง ก็ยังคงไม่สามารถเปิดบอลได้เข้าเป้าเหมือนเดิม ทำให้สเปนเสียโอกาสในการลุ้นประตูหลายต่อหลายครั้ง

ช่วงเวลาที่ เหลือ "กระทิงดุ" ยังเป็นฝ่ายทำเกมบุกเหนือกว่า แต่ก็ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้จบ 90 นาทีจึงเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมกับไปลุ้นผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรกกับ ชิลี ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน ส่วน ฮอนดูรัส ซึ่งตกรอบไปเรียบร้อยจากการแพ้สองนัดรวดจะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์

รายชื่อนักเตะทั้ง สองทีม

สเปน : อีเคร์ คาซิญาส 6,คาร์เลส ปูโยล 7,เคราร์ด ปิเก้ 8,โจน คัปเดบีล่า 7,แซร์คิโอ้ รามอส 8(อาร์เบลัว 6 น.77),เซอร์จิโอ้ บุสเกตส์ 7.5,ชาบี้ อลอนโซ่ 8,ชาบี้ 7(ฟาเบรกัส 7 น.65),ดาวิด บีญ่า 8.5*,เฟร์ นานโด ตอร์เรส 6(มาต้า 7 น.70),เคซุส นาบาส 7

lฮอนดูรัส : โน เอล บัลเญดาเรส 6,เมย์นอร์ ฟิเกอรัว 6,ออสมัน ชาเวซ, 6เอมิลิโอ อิซากีร์เร่ 6,แซร์คิโอ้ เมนโดซ่า 4,อมาโด กูวาร่า 5.5,วิลสัน ปาลาซิออส 6.5,วอลเตอร์ มาร์ติเนซ 5,โรเจอร์ เอสปิโนซ่า 5(เวลคัม 6.5 น.45),ดานิโล่ เทอร์ซิออส 5(นูเนซ 6 น.63),ดาวิด ซัวโซ่ 4(เจอร์รี่ ปาลาซิออส - น.84)

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel Udon Thani – World’s First Bronze Age Civilization





Archaeological finds here yielded evidence of a Bronze Age civilization that flourished more than 5,000 years ago. Located 348 miles northeast of Bangkok, Udon Thani is home to Ban Chiang, a UNESCO World Heritage Site. You can enjoy the displays of prehistoric artifacts, including Ban Chiang’s highly distinctive pottery, and the open museum excavation. Spend a lazy couple of days wandering Ban Chiang village and making friends with the locals, who are skilled artisans in their own right.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ โรงเรียนอนุบาล Bangkok condo

Thailand Travel

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel Chiang Mai – The Gateway to the Mountainous North






Founded in 1296 by King Mengrai as a capital of the Lanna Kingdom, Chiang Mai offers a perfect blend of

history, with centuries-old temples next to the boutique hotels and colorful night markets. Located 435

miles north of Bangkok and conveniently accessed by both air and rail services, Chiang Mai always has

something to discover. Intriguing diversity among ethnic tribes coupled with breathtaking scenery makes

Chiang Mai one of Asia's most attractive destinations.

The city of Chiang Mai, pleasantly situated on the banks of the Ping River, is a treasure trove of ancient

temples, fascinating for their distinctive Lanna architectural style and rich decorative detail. On the

outskirts of the city is the famed hilltop temple of Wat Phrathat Doi Suthep. At 3,520 feet above sea level,

it is the most famous and most visible landmark with vibrant view of the city and surrounding countryside.

Trekking in the hills of the North is one of Chiang Mai’s most popular tourism activities. Popular jungle

treks last from 2 to 7 days and take trekkers through forested mountains and high valleys and meadows,

as well as visits to more remote high altitude hilltribe settlements for overnight stays. Treks commonly

feature travel by foot, sometimes by boat, elephant-back, or horse-back. For those who wish to hike to the

highest peak of Thailand which rises to 8,415 feet above sea level, Doi Inthanon National Park is a must.

And if you would like to learn more of elephant and mahout relationships, visit Elephant Conservation

Center at the nearby province of Lampang.

Visit Chiang Mai during Songkran Festival or Thai New year (April 13-15) and Yi Peng Festival or Lantern

Festival coinciding with the Loi Krathong Festival on the full-moon night of the 12th lunar month will

enhance your cultural experiences. Songkran festival features the Buddha ritual bathing and water

splashing while the Yi Peng festival features the release of the lanterns into the sky to worship the gods.

For shopping lovers, Chiang Mai is famous for its wealth of quality handicraft, both traditional and modern,

hilltribe handicrafts and antiques. Shopping routes include San Kamphaeng for cotton and silk products,

Bo Sang village for umbrellas, Wua Lai Road for silverware and Ban Thawai village for furniture and

woodcarving products. For fast and fun shopping, visit the Chiang Mai night bazaar.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์

โรงเรียนอนุบาล
Bangkok condo


Thailand Travel

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel Dok Krachiao Blooming Festival




The unique geographical landscape of Chaiyaphum Province in the northeast of Thailand gives rise to a range of natural attractions of exceptional beauty. Of these, the fields of pinkish-purple Siam Tulip, or "Dok Krachiao", come in to full bloom in the early part of the rainy season from June to August.

Also commonly called 'patumma', 'bua sawan' (heaven lotus), or 'bua bok' (the land lotus), the Siam Tulip is a member of the ginger genera - Curcuma or Zingiberaceae.

The unusual form, bright colour and long-lasting quality of the Siam Tulip has made it an increasingly popular choice for floral decorations. It is in high demand and is currently being cultivated in the form of cuttings or ornamental plants for local consumption as well as for export overseas, predominantly to Japan and the Netherlands.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ โรงเรียนอนุบาล Bangkok condo


Thailand Travel

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel Thai-Chinese Architectural Heritage

(by Steve Van Beek) It is no secret that for centuries the Chinese have been movers and shakers far beyond the bounds of their Celestial Empire. In Southeast Asia, they’ve wielded enormous economic influence, and the symbols of their power — China Towns, shrines, temples, dragons — can be found in a dozen cities, but these potent symbols are normally distinct islands within a sea of indigenous architecture and traditions.

While Thailand exhibits the same compelling evidence of Chinese presence, what sets Bangkok apart and makes for the visitor a fascinating journey of discovery is that subtle Chinese elements have also been blended into traditional Thai architecture. Like finding a Thai Buddhist temple tucked in a quiet lane behind a modern corporate glass tower, the evidence is there for the active traveller and the rewards for perseverance are a multitude of beautiful images that give an extra dimension to a visit and an insight into how Thais view themselves.

Wandering through Bangkok’s nineteenth century wat (monasteries), one becomes aware of something different from the stalwarts of Thai architecture like Wat Phra Kaeow (Temple of the Emerald Buddha).

On many temples, the pediments (the triangular end area below the roof) are covered in ceramic flowers – no roof shelters them, and the chorfa (often called the “sky tassel”), which reach into the air from the roof ends, is missing. Then there are the stone sculptures in the courtyards. These aren’t Thai historical figures, they are distinctly Chinese: generals, gods, demons, horses, pagodas, and more.

These unique temples include some of the city’s largest such as Wat Pho, Wat Suthat, Wat Chalerm Prakiet and Wat Arun, although the most notable examples — Wat Raja Oros, Wat Khruawan, Wat Nang Nong, and Wat Bangkhunthian Nai — are tucked away along canals on the Thonburi side of the river.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ ศูนย์เด็กเล็ก Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok condo

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel Hua Hin Regatta 2010




At the close of the month, 30 July, sailors gather for the annual Hua Hin Regatta 2008 that will test their skills over three days of competition. The coveted trophies are the Royal Vega Rudder trophy of His Majesty the King, Super Mod National Championship trophy from HM the King, OK Dinghy National Championship trophy from HM the Queen, and Princess Cup for Optimist Championship of the late HRH Princess Galyani Vadhana.



Hua Hin is considered the traditional home for the country’s sailing community, due to HM the King’s keen interest in the sport. A Southeast Asia Games winner in the sailing category, HM the King built his own racing dinghy and helped to establish the Super Mod class and is an enthusiastic patron of sailing resulting in this annual regatta being held in his honour off the coast of Hua Hin in sight of the palace.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ ศูนย์เด็กเล็ก Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok condo


Thailand Travel

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand Travel International Wax Sculpture




Join the alms-giving for Asalha Puja and the Khao Phansa Buddhist ceremony. Participate in the

ceremony of welcoming His Majesty the King’s royal candle and the international candle-carving

competition from various countries, as well as taste “Pha Khao Laeng” , a local food especially prepared

for tourists.

Contact :
TAT Ubon Ratchathani Office, Tel : 66 (0) 4524 3770-1, 66 (0) 4525 0714
Ubon Ratchathani Provincial Office, Tel : 66 (0) 4525 4827


Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok apartment Bangkok condo การตลาดออนไลน์