วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เดโฟสุดหล่อยิงสุดสวยช่วยสิงคว้าชัย 1-0




เจอร์เมน เดโฟกองหน้าซาไกตอบแทนฟาบิโอ คาเปลโล่ด้วยประตูชัยดับ+เขี่ยสโลเวเนียหวุดหวิด 1-0 แต่โชคร้ายสหรัฐอเมริกาดันแซงเฮได้แชมป์กลุ่มเลยต้องไปชนตออย่างเยอรมันใน รอบ 16 ทีมสุดท้ายแทน

ฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม C

วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2553

สโลเวเนีย 0 - 1 อังกฤษ

ประตู : 0-1 เจอร์เมน เดโฟ น.23

เดโฟคู่หมูตามคาด-มิลเนอร์ทำเกมริมเส้น
เจอร์เมน เดโฟได้ลงเล่นร่วมกับเวย์น รูนี่ย์ให้กับทีมชาติอังกฤษในแดนหน้าตามที่คาดการณ์กันได้ ส่วนแผงมิดฟิลด์เป็นแลมพาร์ดคู่เจอร์ราร์ด และมีแบร์รี่เป็นกองกลางตัวรับ ในขณะที่เกมริมเส้นเจมส์ มิลเนอร์ได้รับโอกาสแก้ตัว หลังจากเกมแรกเตะได้ห่วยแตกสุด ๆ

ข่าวฟุตบอล เรือใบพร้อมราคาขายโรบินโญ่





เดอะ ซันเดย์ มิร์เรอร์ ลงข่าวทีม"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศพร้อมขาย โรบินโญ่ สตาร์ชาวบราซิเลี่ยนออกไป ในราคาที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน


ปัจจุบัน โรบินโญ่ ได้หมดสัญญายืมตัวกับทีมซานโต๊ส ของลีกบราซิล เป็นที่เรียบร้อย และเจ้าตัวก็ชัดเจนว่าไม่อยากลงเล่นให้กับทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์อีก ซึ่งตัวแทนของโรบินโญ่ ก็ได้เตรียมเข้าพบกับทางบอร์ดของแมนฯ ซิตี้แล้วในวันพุธที่จะถึงนี้


จากข่าวดังกล่าว ทำให้แบรนด์ ชูสเตอร์ ผู้สนใจในตัวโรบินโญ่ ตั้งแต่เมื่อเขาอยู่ที่ทีมเรอัล มาดริดแล้ว แสดงท่าทีอยากได้ตัวเขามาร่วมทีมอีกครั้งหนึ่ง กับทีบเบซิคตัส ลีกโปรตุเกส ที่เขาคุมอยู่ในปัจจุบัน

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แอฟริกาใต้เซ็ง!ดับฝรั่งเศส2-1แต่ปิ๋วรอบแรก


ข่าวฟุตบอลโลก 2010

รอบแรก นัดสุดท้าย

กลุ่ม เอ

ฝรั่งเศส 1 - แอฟริกาใต้ 2



เกมสำคัญของทั้งฝรั่งเศสและ แอฟริกาใต้ เจ้าภาพ ที่ต้องเก็บชัยชนะด้วยสกอร์มากๆ และลุ้นผลอีกคู่ไม่ให้เสมอกัน ถึงจะมีลุ้นแซงเข้ารอบ แต่ก็ถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องรอปาฏิหาริย์ทั้งคู่

ตราไก่ปรับทัพถึง 6 ตำแหน่ง เฌเรมี่ ตูลาล็อง ติดโทษแบน ส่วน ปาทริซ เอวร่า กัปตันทีม เป็นสำรอง หลังมีปัญหากับนักกายภาพ และเป็นแกนนำประท้วงไม่ลงซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้ก็ไล่ นิโกล่าส์ อเนลก้า กลับบ้านไปก่อนแล้ว

เกมนี้ อาลู ดิยาร์ร่า เป็นกัปตันทีมแทน เซบาสเตียง สกิลลาซี่, กาแอล กลิชี่, โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์, ฌิบริล ซิสเซ่ และ อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก ได้โอกาสลงตัวจริงทั้งหมด

ทางฝั่ง บาฟาน่า บาฟาน่า ก็ปรับระบบมาเล่น 4-4-2 และปรับ 5 ตำแหน่ง อิตูเมเล็ง คูเน่ กับ คากิโช่ ดิคคาชอย ติดโทษแบนทั้งคู่ ส่ง โมเอนีบ โจเซฟส์ ลงเฝ้าเสาแทน ที่เหลือ อาเนเล่ เอ็งคองก้า, บองกานี่ คูมาโล่, ธานดูยิเซ่ คูโบนี่ และ เบอร์นาร์ด พาร์เกอร์ ได้ลงตัวจริง

เริ่มเกมขึ้นมา 3 นาที ตราไก่ได้โอกาสทักทายแบบงามๆ ก่อน เมื่อ อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้ว แต่ดันแปด้วยเท้าขวาบดไปเข้ามือ โจเซฟส์ ไม่ยากเย็นนัก

หลังจากนั้น แอฟริกาใต้เริ่มตั้งเกมได้ และทำเกมบุกได้ดีขึ้น จนนาทีที่ 20 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมฝั่งขวา ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า เปิดด้วยซ้าย อูโก้ โยริส ออกมาตัดบอลพลาด ข้ามไปตกที่ บองกานี่ คูมาโล่ ขึ้นโหม่งแต่บอลไปโดนแถวๆ ต้นแขนเข้าประตูไป

บาฟาน่า บาฟาน่า เกือบได้ลูกสองในนาทีที่ 24 จากลูกทุ่มกลางสนาม คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า รับบอลแล้วลากขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะตะบันด้วยเท้าขวาระยะ 20 หลา หลุดเสาออกไปไม่มาก

สถานการณ์ของฝรั่งเศสย่ำแย่เข้าไปอีก เมื่อต้องเหลือ 10 คน ในนาทีที่ 25 โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์ ขึ้นโหม่งพร้อมกับ แม็คเบธ ซิบาย่า แล้วยกแขนขึ้นไปกระแทกหน้า ทำให้ ออสการ์ รูอิซ ผู้ตัดสินชาวโคลอมเบีย ตัดสินใจชูใบแดงไล่กูร์กกุฟฟ์

นาทีที่ 34 เจ้าภาพมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายข้ามกำแพง แต่ก็ข้ามคานออกไปด้วย

แอฟริกาใต้ เริ่มมีความหวังขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 37 เซโป มาซิเลล่า ลุยขึ้นมาในเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดยัดให้ คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า บอลพันแข้งพันขา แต่ กาแอล กลิชี่ ก็สกัดวืดวาด เอ็มฟีล่าเลยยิงจ่อๆ หลาเดียวไม่เหลือ

นาทีถัดมา กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อ เมื่อเกือบได้เม็ดสามติดๆ เบอร์นาร์ด พาร์เกอร์ เกี่ยวบอลติดแล้วแปเน้นๆ ผ่านโยริสเข้าไป แต่มีธงล้ำหน้ายกขึ้นจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน

ตราไก่จะขอประตูคืนบ้าง ฟร้องค์ ริเบรี่ ปั่นฟรีคิกเน้นๆ ในนาทีที่ 40 แต่โจเซฟส์ ปัดข้ามคานออกไปได้ จบครึ่งแรก แอฟริกาใต้นำ 2-0

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ปรับทัพด้วยการส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า ลงไปแทน อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก

นาทีที่ 51 แอฟริกาใต้ น่าได้ประตูที่สามอย่างที่สุด เมื่อ ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า แทงบอลให้ คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า สอดหนี บาการี่ ซาญ่า ไม่ล้ำหน้า ก่อนแปผ่าน โยริส ไปชนเสาออกหลัง

ตราไก่ ต้องเปลี่ยนตัวที่สองในนาทีที่ 55 ส่ง เธียร์รี่ อองรี ลงแทน ฌิบริล ซิสเซ่ เป็นการลงเล่นนัดที่ 17 ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทำสถิติสูงสุดเทียบเท่า ฟาเบียง บาร์กเตซ ด้วย

เจ้าถิ่นพยายามบุกเอาประตูที่สามให้ได้ นาทีที่ 57 คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า กองหน้าตัวเก่ง ตะบันด้วยขวาเต็มเหนี่ยวจากระยะ 20 หลา แต่ โยริส ปัดออกหลังไปได้

ฝรั่งเศส มาเบิกประตูแรกในศึกฟุตบอลโลกหนนี้จนได้ในนาทีที่ 70 ไล่สกอร์ขึ้นมาเป็น 1-2 เมื่อ ฟร้องค์ ริเบรี่ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วเปิดบอลผ่าน โจเซฟส์ ไปให้ มาลูด้า ที่ยืนรออยู่หน้าประตู แปด้วยขวาเข้าไปโล่งๆ

แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกม แอฟริกาใต้ เฉือนชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 2-1 กอดคอกันตกรอบแรกทั้งคู่ แม้เจ้าภาพจะมี 4 แต้มเท่ากับเม็กซิโก แต่ประตูได้เสียสู้ไม่ได้


ผู้เล่นทั้งสองทีมที่ลงสนาม
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (1), บาการี่ ซาญ่า (2), วิลเลี่ยม กัลลาส (5), กาแอล กลิชี่ (22),โยอันน์ กูร์กกุฟฟ์ (8), ฌิบริล ซิสเซ่ (9), อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก (11), เซบาสเตียง สกิลลาซี่ (17), อาลู ดิยาร์ร่า (18), อาบู ดิยาบี้ (19), ฟร้องค์ ริเบรี่ (7)

แอฟริกาใต้ : ชู-ไอบ์ วอลเตอร์ส (1), เซโป มาซิเลล่า (3), อารอน โมโคเอน่า (4), ลูคัส ธวาล่า (5), แม็คเบธ ซิบาย่า (6), ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า (8), คาทเลโก้ เอ็มฟีล่า (9), สตีเว่น พีนาร์ (10), เซอร์ไพรส์ โมริรี่ (17), บองกานี่ คูมาโล่ (20), ธานดูยิเซ่ คูโบนี่ (23)

ข่าวฟุตบอล กระทิงคืนฟอร์ม บีย่าซัดยิงดับฮอนดูรัส 2-0




ข่าวฟุตบอล
ฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม H
วันจันทร์ ที่ 21 มิถุนายน 2553
สเปน 2 - 0 ฮอนดูรัส ประตู : 1-0
ประตู: ดาวิด บีย่า น.17,2-0 ดาวิด บีย่า น.51

ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

ครึ่งแรก

"กระทิงดุ" เกือบได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 6 จากจังหวะที่ บีย่า ได้สับไกจากระยะ 30 หลา แต่บอลคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 16 ฮอนดูรัส โต้กลับเร็วได้สวย เมื่อ วอลเตอร์ มาร์ติเนซ จ่ายบอลให้ ซัวโซ่ ทะลุมาถึงกรอบเขตโทษ แต่ อีเคร์ กาซิยาส ยังปราดออกมาคว้าบอลไว้ได้ทัน

ถัดมานาทีเดียว เคราร์ด ปิเก้ เปิดบอลข้ามฟากให้ บีย่า ที่ลากตัดเข้าในก่อนจะล้มตัวยิง บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงามให้ สเปน ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 24 กระทิงดุพลาดโอกาสได้ประตูที่ 2 อย่างน่าเสียดาย เมื่อ เฆซุส นาบาส โยนบอลน้ำหนักเยี่ยมไปหน้าประตู แต่ ชาบี กลับพุ่งโหม่งไม่ถึง สเปน เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง โดยที่ ตอร์เรส มีโอกาสบวกสกอร์ให้ทีม 2 ครั้งติดๆ กันในนาทีที่ 33 และ 34 แต่ลูกโหม่งลงพื้นและลูกยิงเหน่งๆ ของเขากลับข้ามคานออกไป

จากนั้น ทีมแชมป์ยูโร 2008 ก็ยังเป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้ดีกว่า แต่ก็ไม่สามารถจะทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบครึ่งแรก สเปน นำอยู่แค่ 1-0

ครึ่งหลัง

ฮอนดูรัสแก้เกมส่ง จอร์จี้ เวลคัม กองหน้า ลงเล่นแทน โรเจอร์ เอสปิโนซ่า นาที 46 และนาที 51 สเปนนำห่าง 2-0 ชาบี เอร์นานเดซ จ่ายบอลมาตรงกลางให้ เฆซุส นาบาส เปิดมาเข้าทาง ดาบิด บีย่า ยิงเท้าขวาจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบโดนหัวเข่าของ ออสมัน ชาเวซ กองหลังฮอนดูรัส เข้าประตูไป นับเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้ และเป็นลูกที่ 40 ของเขาในทีมชาติ

ลูก ทีมของ เดล บอสเก้ เดินหน้าบุกต่อในนาที 53 รามอส กระชากบอลขึ้นมาซัดหน้าเขตโทษหลุดเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นนาที 60 "กระทิงดุ" มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ นาบาส ถูก อีซากีร์เร ทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ บียา ซึ่งรับหน้าที่สังหารกลับยิงไม่เข้ากรอบพลาดทำแฮตทริกของตนเองไป

อีก 5 นาทีต่อมา เดล บอสเก้ ก็เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกด้วยการส่ง เชสก์ ฟาเบรกาส ลงมาแทน ชาบี เอร์นานเดซ และอีกไม่กี่อึดใจต่อกัปตันทีมอาร์เซน่อล ก็ได้โอกาสยิงทันทีแต่บอลกลับถูกสกัดจากเส้น

นาที 68 ราม่อน นูเนซ ตัวสำรองของฮอนดูรัส ซัดฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลเหินข้ามคานไปไกล และสองนาทีต่อมา เดล บอสเก้ เปลี่ยนตัวสำรองคนที่สองส่ง ฆวน มาต้า ลงเล่นแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส

นาที ที่ 75 เคซุส นาบาสที่วันนี้ได้ลากบอลไปเปิดทางริมเส้นฝั่งขวาบ่อยครั้ง ก็ยังคงไม่สามารถเปิดบอลได้เข้าเป้าเหมือนเดิม ทำให้สเปนเสียโอกาสในการลุ้นประตูหลายต่อหลายครั้ง

ช่วงเวลาที่ เหลือ "กระทิงดุ" ยังเป็นฝ่ายทำเกมบุกเหนือกว่า แต่ก็ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้จบ 90 นาทีจึงเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมกับไปลุ้นผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรกกับ ชิลี ในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน ส่วน ฮอนดูรัส ซึ่งตกรอบไปเรียบร้อยจากการแพ้สองนัดรวดจะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์

รายชื่อนักเตะทั้ง สองทีม

สเปน : อีเคร์ คาซิญาส 6,คาร์เลส ปูโยล 7,เคราร์ด ปิเก้ 8,โจน คัปเดบีล่า 7,แซร์คิโอ้ รามอส 8(อาร์เบลัว 6 น.77),เซอร์จิโอ้ บุสเกตส์ 7.5,ชาบี้ อลอนโซ่ 8,ชาบี้ 7(ฟาเบรกัส 7 น.65),ดาวิด บีญ่า 8.5*,เฟร์ นานโด ตอร์เรส 6(มาต้า 7 น.70),เคซุส นาบาส 7

lฮอนดูรัส : โน เอล บัลเญดาเรส 6,เมย์นอร์ ฟิเกอรัว 6,ออสมัน ชาเวซ, 6เอมิลิโอ อิซากีร์เร่ 6,แซร์คิโอ้ เมนโดซ่า 4,อมาโด กูวาร่า 5.5,วิลสัน ปาลาซิออส 6.5,วอลเตอร์ มาร์ติเนซ 5,โรเจอร์ เอสปิโนซ่า 5(เวลคัม 6.5 น.45),ดานิโล่ เทอร์ซิออส 5(นูเนซ 6 น.63),ดาวิด ซัวโซ่ 4(เจอร์รี่ ปาลาซิออส - น.84)