วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวฟุตบอล ปรันเดลลี่ประเดิมจืด!อิตาลีพ่ายโคสต์0-1

ฟุตบอลกระชับมิตร

(เมื่อวันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2553)

อิตาลี 0 - 1 ไอวอรี่ โคสต์

สนาม : อัพตัน พาร์ค (ลอนดอน, อังกฤษ)

ทีมชาติอิตาลี ลงสนามอุ่นเครื่องกับ ไอวอรี่ โคสต์ ที่อัพตัน พาร์ค สนามของทีมเวสต์แฮม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เกมนี้ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซืออิตาลีส่ง อเมารี, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันโตนิโอ คาสซาโน่ นำทัพ ส่วน ฟร็องซัวส์ ซาฮุย โค้ชชั่วคราวของไอวอรี่ โคสต์ คุมทีมเป็นนัดแรก หลังจากสเวน-โกรัน อีริคส์สัน ไม่ได้รับการต่อสัญญา โดยทีมมี ยาย่า ตูเร่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, ซาโลมง กาลูเป็นแกนหลัก แต่พวกเขาต้องขาดผู้เล่นถึง 6 คนมีปัญหาเรื่องวีซ่าทั้ง กงสต็องต์ ยัคปา, ดีดิเย่ร์ ยา โกน็อง, อาร์เธอร์ โบกา, อารูน่า ดินดาน, บาการี่ โกเน่, ค็อฟฟี่ โรมาริซ มิดฟิลด์เซบีย่า

นักเตะทั้งสองทีมลงเล่นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยครึ่งแรกเริ่มต้น เกมผ่านไปเพียง 3 นาที ซิยาก้า ติเยเน่ แบ็กซ้ายไอวอรี่ โคสต์ทำแฮนด์บอล ทำให้ อิตาลี ได้ลูกฟรีคิก และก็เป็น มาริโอ บาโลเตลลี่ ซัดฟรีคิกเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษบอลเหินข้ามคานหวุดหวิด

นาที 12 โอกาสเป็นของไอวอรี่ โคสต์ เมื่อ แชร์วินโญ่ ทำทางให้ ซาโลมง กาลู ยิงเท้าขวาระยะไกลติดกองหลังอิตาลี และสี่นาทีต่อมา เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ มิดฟิลด์ไอวอรี่ โคสต์ ได้ยิงเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษไปติด ซัลวาตอเร่ ซิริกู ผู้รักษาประตูอัซซูร์รี่ เซฟไว้ได้อยู่หมัด

จากนั้นทั้งคู่ต่างมีจังหวะยิงไกลแต่ก็ไม่เข้าทั้ง แชร์วินโญ่ นาที 22 และ มาริโอ บาโลเตลลี่ สตาร์อิตาลีนาที 24 โดยสองนาทีถัดมา กาลู ได้บอลจ่ายให้ ติเยเน่ ซัลโวเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลา

นาที 30 แชร์วินโญ่แผลงฤทธิ์อีกครั้ง ยิงเท้าขวาหน้าประตู บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย และนาที 32 ไอวอรี่ โคสต์น่าได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ซาโลมง กาลู ทำชิ่งให้ ยาย่า ตูเร่ ยิงจากนอกกรอบเขตโทษเข้าข้างประตู

ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 36 ซิโมเน่ เปเป้ กองกลางอิตาลีได้ยิงระยะไกลติด ดาเนี่ยล เยบัวห์ นายทวารไอวอรี่ โคสต์ จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0

มาถึงครึ่งหลัง ฝนยังตกลงมาอยู่ตลอด นาที 47 อันโตนิโอ คาสซาโน่ ผ่านบอลให้ มาร์โก ม็อตต้า ยิงเท้าขวาบอลชนเสาอย่างจัง ชวดโอกาสที่ อิตาลี จะได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

นาที 55 ไอวอรี่ โคสต์ได้ประตูนำ 1-0 กีย์ เดแมล โยนบอลจากฝั่งขวาให้ โคโล่ ตูเร่ โหม่งหน้าประตูเข้าไป จากนั้นทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงสนามหลายคน

อิตาลี น่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อ มัทเทีย คาสซานี่ พาบอลหนีกองหลังไอวอรี่ โคสต์ ก่อนโยนจากริมเส้นฝั่งขวาไปที่เสาสองให้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า โหม่งเข้าข้างตาข่ายนาที 62

เวลาที่เหลืออยู่ทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงสนาม ขณะที่ อิตาลี ทำประตูตีเสมอไม่สำเร็จ จบเกม ไอวอรี่ โคสต์ ชนะ อิตาลี 1-0
ไฟล์ ชื่อเปลี่ยนคู่อิตาลี ในเล่มเล็ก

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อิตาลี : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - มาร์โก ม็อตต้า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, คริสเตียน โมลินาโร่ - อันเจโล่ ปาลอมโบ (ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ น.81) , ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - ซิโมเน่ เปเป้ (เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ น.74), อันโตนิโอ คาสซาโน่, มาริโอ บาโลเตลลี่ (มาร์โก บอร์ริเอลโล่ น.59) - อเมารี (ฟาบิโอ กวายาเรลล่า น.59)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : เอมิลิอาโน่ วิเวียโน่ (ผู้รักษาประตู), ลูก้า อันโตนินี่, สเตฟาโน่ ลุคชินี่, มัทเทีย คาสซานี่, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, ดาวิเด้ อัสโตรี่, อันเดรีย ลาซซารี่
ใบเหลือง : เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ น.83

ไอวอรี่ โคสต์ : ดาเนี่ยล เยบัวห์ - กีย์ เดแมล (กาเฟิงบา กูลิบาลี่ น.57), โคโล่ ตูเร่, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ซิยาก้า ติเยเน่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, ยาย่า ตูเร่, อิสมาแอล ติโอเต้ - แชร์วินโญ่ (สตีฟ โกฮูรี่ น.92), ซาโลมง กาลู, เซย์ดู เดิงเบีย (ยันนิก ซักโบ น.62)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : บูบาการ์ บาร์รี่ (ผู้รักษาประตู), ซูเลย์มาน บ็องบา, เอแมร์กส์ ฟาเอ้, บรู อ็องกูย่า, ชิลล์ส ยาปิ ยาโป
ใบเหลือง : เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ น.35

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์ก่อนเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบ 4 ทีมสุดท้าย




แจ็คกี้ พาชาว MSN มาวิเคราะห์ก่อนเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบ 4 ทีมสุดท้ายในวันที่ 6-7 ก.ค.นี้ 2 คู่ระหว่าง อุรุกวัยพบฮอลแลนด์ และเยอรมันจะพบกับสเปน


เยอรมัน VS สเปน

วันที่ 7 ก.ค. เวลา 01.30 น.
ที่ – เดอร์บัน สเตเดี้ยม, เมืองเดอร์บัน

สถิติรอบแรก ;
เยอรมัน ชนะ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 13 เสีย 1
สเปน ชนะ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 6 เสีย 2

สภาพทีมล่าสุด ;
เยอรมัน ไม่มี โทมัส มุลเลอร์ นักเตะกองกลางด้านขวา ซึ่งติดโทษพักแข้ง ส่วนการบาดเจ็บของ ชไวน์สไตน์เกอร์ นั้นไม่เป็นปัญหา ลงสนามได้ โดยตำแหน่งของมุลเลอร์นั้นน่าจะโดนแทนที่โดย ปิโอตอร์ ทรอชอฟสกี้ ซึ่งเป็นตัวสำรองคนแรกในทีมของ โยกี้ เลิฟ นอกนั้นชุดเดิม

โดย ทรอชอฟสกี้ ต้องยืนด้านขวาแทน มุลเลอร์ แต่สามารถสลับตำแหน่งกันได้อย่างอิสระในเกมรุกทั้ง โอซิล, ทรอชอฟสกี้
ผู้รักษาประตู - นอยเออร์
กองหลัง - 16 ลาห์ม, 3 ฟรีดิช, 17 แมร์เตซัคเกอร์, 20 บัวเต็ง
กองกลาง - 7 ชไวน์สไตน์เกอร์, 6 เกดิรา, 15 ทรอฟชอฟสกี้
กองหน้า - โคลเซ, โพดอลสกี้, โอซิล

สเปน ตัวเต็ม นักเตะไม่ติดโทษแบนเพราะผู้เล่นของสเปนส่วนใหญ่จะโดนทำฟาวล์ ไม่ใช่ไปทำฟาวล์คู่แข่งขัน ส่วนกรณี เฟร์นานโด ตอร์เรส นั้น สเปนจะใช้ลงเล่นข่มกองหลังเยอรมันแน่นอนแม้ว่า ตอร์เรส ฟอร์มแย่มาโดยตลอดก็ตามที

ผู้รักษาประตู - กาสิยาส
กองหลัง - รามอส, ปิเก, ปูโยล, คัปเดบีลา
กองก ลาง - ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ, บุสเกต
กองหน้า - ตอร์เรส,บียา, อีเนียสต้า

กลยุทธ์ที่ใช้ ;
โยกี้ เลิฟ ไม่น่าเปลี่ยนวิธีการเล่น พวกเขาจะเล่นรอจังหวะให้สเปนบุกเข้าหา เดินเข้ามาทำเกมรุก จากนั้นรอจังหวะในแดนตัวเองอย่างใจเย็น รัดกุม สเปนพลาดเมื่อไหร่ โดนตัดบอลแล้วโต้กลับเร็วทันที นี่คือหมากกลที่ทำให้เยอรมันชนะในสองเกมล่าสุดยิงไป 8 ลูก

เชื่อว่าสเปนจะไม่ผลีผลามในการบุก บิเซนเต้ เดล บอสเก้ จะให้ลูกทีมบุกเข้าหาก็จริง แต่เป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อน นักเตะพยายามเคลื่อนที่กันตลอดเวลา ให้บอลกันแม่นและเร็ว หาช่องตลอด โดยสเปนต้องการครองบอลเอาไว้ให้มากและนานที่สุดเพื่อไม่ให้เยอรมันเล่น

ข้อสำคัญสเปนไม่ต้องการให้เยอรมันได้ใช้ความผิดพลาดของสเปนเลย เนื่องจากกองกลางสเปนชุดนี้ ไม่ใช่ให้บอลแม่นอย่างเดียว ตรงกันข้ามแย่งบอลเก่งอีกต่างหาก ดังนั้นเกมนี้ แผนการของเยอรมันน่าจะลดประสิทธิภาพลง ขณะที่สเปนนั้นอาจเจาะเข้าทำยากสักหน่อย และคงเป็นเกมที่อึดอัด แต่เป้าหมายของพวกเขาคือ ไม่ต้องการให้เยอรมันเล่นบอลและไม่ต้องการเสียประตูแรกให้เยอรมันอีกด้วย

ผลที่คาด ;
สเปน..จะลดประสิทธิภาพเกมโต้กลับของ เยอรมันลง ที่เหลืออยู่ที่พวกเขาว่าจะเจาะได้มั้ย หากไม่เสียประตูแรกให้เยอรมันก่อน...สเปนมีโอกาสย้ำแค้นอีกครั้งจาก ศักยภาพของนักเตะทั้ง 11 คนแรกและตัวสำรองที่มีคุณภาพอย่าง ฟาเบรกาส, ซิลบา, นาบาส กระทั่ง ยอเรนเต้ ที่เล่นลูกโด่งได้ดี

สเปนจะล้มทีมสุดฮอตผ่านเยอรมันเข้าชิงชนะเลิศ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์



อุรุกวัย VS ฮอลแลนด์

วันที่ 6 ก.ค. 01 เวลา- 01.30 น.
ที่- กรีนพอยนต์ สเตเดี้ยม เมือง เคปทาวน์

สถิติรอบแรก ;
อุรุกวัย - ชนะ 3 เสมอ 2 ยิงได้ 7 เสีย 2
ฮอลแลนด์ - ชนะ 5 ยิงได้ 9 เสีย 3

ตามสถิติแล้วคู่นี้พบกันมาแล้วสองครั้งในประวัติศาสตร์ ครั้งแรกฟุตบอลโลกปี 1974 ฮอลแลนด์ ชนะ อุรุกวัย 2-0 โดยนักเตะชุดนั้นมีคุณพ่อของดีเอโก ฟอร์ลัน คือ ปาโบล ฟอร์ลัน ลงสนามด้วย ครั้งล่าสุดเป็นนัดอุ่นเครื่องเมื่อปี 1980 เล่นที่บ้านอุรุกวัย ผลอุรุกวัยชนะ 2-0

สภาพทีมล่าสุด ;
เริ่มกันที่ อุรุกวัย ไม่มี 2 นักเตะตัวหลักที่โดนพักแข้ง แบกซ้าย ฟูซิเล่ และ ศูนย์หน้าความหวังของทีม หลุยส์ ซัวเรซ โดยโค้ช ออสการ์ ตาบาเรซ น่าจะส่ง อัลบาโร เปเรรา เล่นแบกซ้าย ส่วนกองหน้านั้น อาบรู จะลงแทน ซัวเรซ ที่โดนพักแข้งหนึ่งนัดจากใบแดงนัดพบกานา ส่วน ดาวิด ลูกาโน กัปตันทีมนั้นน่าจะผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้

ผู้รักษาประตู - มุสเซรา
กองหลัง - 16 ม.เปเรรา, 2 ลูกาโน, 6 วิคตอริโน, 11 อ.ปาเรรา
กองกลาง - 15 เปเรซ, 17 อาเรบาโล, 20 โลเดโร
กอง หน้า - ฟอร์ลัน, 7 กาวานี, อาบรู

ทางด้านฮอลแลนด์ ก็ขาด 2 ตัวหลักเพราะโทษพักแข้งเหมือนกัน แบกขวา ฟาน เดอ วีล กับ กองกลางตัวรับ ไนเจล เดอ ยอง ถือว่าสำคัญมาก โดย ฟาน มาไวจ์ จะส่ง บูห์ราลูซ เล่นแบกขวา ส่วนตำแหน่งเดอ ยองนั้นน่าจะเป็น เดมี เดอ ซูว์ มากกว่า สไตน์ ชาร์

ผู้รักษาประตู - สเตเคเลนเบิร์ก
กองหลัง - 12 บูห์ลารูซ, 3 ไฮติงก้า, 4 มาไธจ์เซน, 5 ฟาน บรองค์ฮอร์สท์
กองกลาง - 10 ชไนจ์เดอร์, 6 ฟาน บอมเมล, 14 เดอ ซูว์
กองหน้า - 11 รอบเบน, 7 เคาต์, 9 ฟาน เพอร์ซีย์

กลยุทธ์ที่ใช้ ;
การพบกันของคู่นี้ ถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นการต่อสู้กันในเกมรับ เพราะทั้งสองทีมยอดเยี่ยมมากในการป้องกัน 5 เกมที่ผ่านมา ฮอลแลนด์เสียประตู 3 ลูก เป็นการเสียจากจุดโทษ 2 ลูก พึ่งเสียจากการโดนเจาะเข้าทำเกมรุกหรือ โอเพ่น เพลย์ นัดล่าสุด

ขณะอุรุกวัยนั้นเสีย 2 ประตูจากลูกฟรีคิกที่ป้องกันพลาดและลูกยิงไกลนัดล่าสุดที่พบกานา คล้ายๆกับฮอลแลนด์คือ รับรัดกุม เจาะค่อนข้างยาก

น่าติดตาม...สำหรับ ฮอลแลนด์ ที่ขาดหัวใจในการเล่นเกมรับสองคน แบกซ้ายกับกองกลางตัวตัดเกม ขณะที่ อุรุกวัยขาด ศูนย์หน้าตัวความหวังอย่าง ซัวเรซ เจ้าของผลงาน 4 ประตู กับแบกซ้ายตัวหลักทีมไหนจะแก้ปัญหาของตัวเองได้ดีกว่ากัน

ผลที่คาด ;
ฮอลแลนด์มีปัญหาเกมรับก็จริง แต่ แนวรุกของ อุรุกวัยขาด ซัวเรซ ความน่ากลัวลดลงเยอะ ทำให้ อุรุกวัยถูกบีบให้รับอย่างเดียว โดย ฮอลแลนด์ เล่นดึงจังหวะตามเกม ด้วยแนวรุกที่ครบ...พร้อมเจาะกองหลัง ทำให้ ทีมสีส้มจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวฟุตบอลโลก มูโต้โด้ไม่ใช่ต้นเหตุทำฝอยทองตกรอบ

ข่าวฟุตบอลโลก มูโต้โด้ไม่ใช่ต้นเหตุทำฝอยทองตกรอบ

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือคนใหม่ของเรอัล มาดริด ออกมาปกป้องดาวเตะชาติเดียวกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับว่าไม่สมควรโดนรุมประณามคนเดียว แต่แข้งฝอยทองทุกคนมีส่วนทำให้ทีมร่วงตกรอบ 16 ทีมเวิลด์คัพ 2010


โปรตุเกสพ่ายสเปน 0-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่หนูโด้เล่นไม่ออก แถมหลังเกมยังแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ทำให้โดนวิจารณ์หนัก

อย่างไรก็ดี มูรินโญ่ ซึ่งเป็นนายใหม่ของโรนัลโด้ในทีมชุดขาวกล่าวว่า "ผมจะไม่ยอมให้โรนัลโด้ต้องเป็นคนรับผิดชอบความล้มเหลวนี้คนเดียว"

ทีมของผม เมื่อเราชนะ ทุกคนชนะ เมื่อเราแพ้ ผมคือคนแพ้ ดังนั้นตอนนี้โรนัลโด้ควรจะทำใจ และไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด เดอะ สเปเชี่ยล วันกล่าว

ข่าวฟุตบอล เยอรมนีแอบกลัวฟ้า-ขาว

ข่าวฟุตบอลโลก เยอรมนีแอบกลัวฟ้า-ขาว

"เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า เชื่อว่าการที่นักเตะทีมชาติเยอรมนี ออกมาวิจารณ์ทีม "ฟ้า-ขาว" ต่างนานานั้นเป็นแค่สงครามจิตวิทยาเนื่องจากจริงๆ แล้ว "อินทรีเหล็ก" กลัวจะแพ้ในการเจอกันรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก วันเสาร์นี้


บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี กล่าวโจมตีว่าอาร์เจนติน่าชอบกดดันผู้ตัดสิน ขณะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมอินทรีเหล็ก ก็ผสมโรงว่านักเตะฟ้า-ขาว รับมือกับความพ่ายแพ้ไม่เป็น หลังจากที่เคยมีเรื่องมีราวกันหลังจบเกมที่ เยอรมนี เฉือนชนะในการดวลจุดโทษรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าภาพ


"เราไม่มีเวลาไปคิดถึงคำพูดของ ชไวน์สไตน์เกอร์หรอก พวกเด็กๆ ของผมกำลังคิดถึงเรื่องการลงสนามและรีแมตช์ของปี 2006 เพราะฉะนั้นผมไม่สนใจเรื่องที่เขาพูดถึงเรื่องการดวลจุดโทษ การไล่เตะหรือที่ว่าเราไม่รู้ว่าแพ้ยังไง มันไม่ได้ทำให้เราสนใจเลย" มาราโดน่า กล่าว

"แต่ละเกมมันก็เล่นแตกต่างกันไปและนี่ก็จะต้องเป็นเกมที่ต่างไปแน่ เพราะว่าเราจะลงไปบุกใส่พวกเขาและเล่นกันซึ่งๆ หน้า และนั่นก็เป็นสิ่งที่พวกเขากลัว"