วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ข่าวฟุตบอลโลก ญี่ปุ่น ยื้อปารากวัยถึงดวลโทษซัดพลาดคนเดียวร่วงตกรอบ

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย (29 มิ.ย.53)

ปารากวัย 0-0 ญี่ปุ่น (120 นาทีเสมอกัน 0-0, ปารากวัย ชนะจุดโทษ 5-3)

สนาม : ลอฟตัส เวอร์สเฟลด์

ประตู : ไม่มี

ทีม “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ทีมสุดท้ายของเอเชีย ที่เหลือในฟุตบอลโลกหนนี เจอกับโจทย์ยากอย่างปารากวัย ทีมจอมแกร่งจากอเมริกาใต้ ที่ผ่านเข้ารอบมาเป็นแชมป์ของกลุ่มอี

เกมเริ่มมา 20 วินาที ญี่ปุ่น ขอทักทายก่อนทันทีจากการยิงไกล 30 หลาของ โอคูโบะ แต่ก็หลุดกรอบออกไปเยอะมาก แต่หลังจากนั้นเป็นปารากวัย ที่ครองเกมได้เหนือกว่าแต่ก็ไม่สามารถจะหาช่องเจาะแนวรับของญี่ปุ่นที่ตรึง กันไว้แน่นได้

ปารากวัย เล่นอย่างอึดอัดมาโดยตลอด แต่ก็มาได้จังหวะใกล้เคียงมากที่จะได้ประตูเมื่อใช้การต่อบอลสั้นขึ้นไป บาร์ริออส โชวลีลาพลิกบอลได้สวยก่อนจะพาบอลเข้าไปในเขตโทษได้แล้วแต่ว่ายิงไม่ผ่านขา ของ คาวาชิม่า ที่เซฟได้สำเร็จก่อนที่ โคมาโน จะมาช่วยเคลียร์ได้

แต่นาทีต่อมา ญี่ปุ่น ก็ตอบโต้ได้อย่างน่ากลัวเมื่อเปิดเกมรุกขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษ บอลโดนสกัดมาได้แต่มาเข้าทาง มัตสุอิ ได้ตั้งป้อมปั่นบอลลูกพุ่งฮุคโค้งกำลังจะมุดใต้คานแต่ก็ไปชนคานดังสนั่น

นาทีที่ 26 ปารากวัย มีจังหวะอีกครั้งเมื่อได้ลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามากลางประตูบอลถูกสกัดตแต่ไม่ขาดมาตกตรงหน้า โรเก้ ซานตา ครูซ แต่ว่าก็ซัดด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาออกไป ก่อนที่เกมจะเปิดแลกกันต่อไป

ญี่ปุ่น เริ่มเปิดหน้าแลกมากขึ้นโดยเฉพาะจังหวะสวนกลับเร็ว มีจังหวะที่ทำชิ่งกันขึ้นมาสวยก่อนที่บอลจะมาถึง ฮอนดะ ส่องไกลจากระยะ 25 หลาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น ก่อนที่เกมจะยื้อกันไปจนจบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังรูปเกมเปิดมากกว่าครึ่งแรกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีจังหวะมากนัก เนื่องจากทั้งสองทีมต่างก็บีบพื้นที่กันได้อย่างรัดกุมทำให้เกมเป็นไปอย่าง อึดอัด ยิ่งเล่นก็ยิ่งเกร็งกัน โดยเฉพาะฝ่ายปารากวัย ที่เห็นได้ชัด

ญี่ปุ่น มาเปิดหน้าแลกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายและสามารถกดดันทีมจากละตินได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะช่วงท้ายเกม แต่ที่สุดแล้วเกมก็จบลงด้วยการเสมอกันเหมือนเดิม และต้องเล่นกันต่อในการต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ช่วงการต่อเวลาทั้งสองทีมเปิดฉากลุยกันใส่แบบไม่มีเหนียมแล้ว และสร้างโอกาสรุกเข้าพื้นที่สุดท้ายกันได้พอสมควร โดย ปารากวัย ถึงขั้นได้โขกจาก บาร์ริออส แต่ว่าก็หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

ปารากวัย ที่ส่ง ออสการ์ คาร์โดโซ่ ลงมาเสริมเกมรุกอีก และน่าจะได้สุดๆเมื่อ วัลเดซ ได้พลิกบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษได้สวยมากแล้ว แต่ว่า คาวาชิม่า ก็ไวออกมาดักบอลได้ทันเวลา ปารากวัย จะ

แต่ญี่ปุ่น ก็มีลูกสูตรที่น่ากลัวในจังหวะฟรีคิกเยื้องไปทางซ้าย ฮอนดะ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปปากประตูโดยที่เพื่อนตามมาเข้าชาร์จไม่ทัน แต่ก็ทำให้ บีญาร์ต้องพุ่งปัดออกไปก่อน

นาทีี่ 101 ปารากวัย ได้เปิดบอลโด่งเข้ามาในเขตโทษ กองหลังญี่ปุ่น สกัดไม่ขาดมาโดน บาร์เน็ตโต้ พยายามจะดีดบอลแต่ก็โด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่จะยังไม่มีใครทำอะไรกันได้จนหมดครึ่งแรกของการต่อเวลา

ช่วง 15 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมเริ่มมีอาการป้อแป้ให้เห็น โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่เริ่มหมดแรง แต่ก็มีจังหวะโต้กลับขึ้นมา บอลมาถึงเขตโทษให้ โอคาซากิ ตอกส้นคืนกลับมาให้ทามาดะ ได้หลุดในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายกลับจ่ายไม่ถึง นากามูระ ที่เติมขึ้นมาทำให้พลาดโอกาสไป ก่อนที่สุดท้ายจะจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน

ในการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่าปารากวัย ยิงเข้าทั้ง 5 คน โดยที่ ญี่ปุ่น พลาดคนเดียวคือ โคมาโนะ ที่ซัดไปชนคาน ทำให้จบเกม ปารากวัย ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ